นโยบายคุ้มครองส่วนบุคคล

BufcLogo

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จัดทำขึ้นเพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงแนวทางปฏิบัติของบริษัท ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และเหตุผลในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


1. เราคือใคร
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดย บริษัท ทรู ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ จำกัด (รวมเรียกว่า "บริษัท") ในกรณีที่ท่านมีข้อซักถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อ

สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 18 อาคาร ทรู ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

ช่องทางการติดต่อ : 02-858-6858
นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล Truebufcshop@truecorp.co.th

2. ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง "ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ"

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการใช้บริการในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังต่อไปนี้
• ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ สัญชาติ และหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
• ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
• ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย คำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้
• บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการดังนี้
o ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัท
o จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและท่าน
o จากการใช้บริการ รวมถึงการใช้เครือข่าย หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
• บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สามซึ่งมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมายรวมถึงตัวแทนและผู้รับจ้างช่วงที่บริษัทใช้เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการสมัครบริการและให้บริการแก่ท่านโดยได้รับข้อมูลผ่านทางอีเมล ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ หรือได้รับเป็นเอกสารซึ่งผู้ที่เปิดเผยมีสิทธิให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
• เพื่อการให้บริการตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
• เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งของรางวัล
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และนำเสนอบริการ นำเสนอหรือให้สิทธิประโยชน์
• เพื่อแจ้งและนำเสนอ สิทธิประโยชน์ ข้อมูล ข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ เกี่ยวกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
• เพื่อการสมัคร หรือเปิดใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และวางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาดของบริษัทและ/หรือร่วมกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
• เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้สมัคร เพื่อสมัครลงทะเบียนและเข้าใช้บริการ
• เพื่อชำระค่าบริการและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ
• เพื่อให้บริการหลังการขาย ให้บริการตามที่ท่านร้องขอ ตอบข้อสงสัย สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูล รับเรื่องร้องเรียน ชดเชยค่าเสียหาย และแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
• เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของท่าน
• เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร จากหน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐ
• เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
• เพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
• เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการใช้บริการของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มทรู เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือกิจการ เครือธุรกิจ หน่วยงานราชการตามกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรม ผู้ให้บริการสนับสนุนลูกค้า ผู้ให้บริการจัดการด้านการตลาดและการโฆษณาที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทและ/หรือท่านเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
ในกรณีที่บริษัทว่าจ้างบริษัทอื่นเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยและจัดให้มีการลงนามในข้อตกลงเพื่อควบคุมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล หน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ที่มิได้มีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (Appropriate safeguards)

7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
• ลักษณะการเก็บ: จัดเก็บเป็นหนังสือ (Hard copy) และจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

• ระยะเวลาจัดเก็บ: บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัท หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา
เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายในระยะเวลาอันควร

8. ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อเข้าทำสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้
ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทได้ โดยท่านอาจได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ

9. Cookie
คุกกี้ (Cookies) และการใช้งานคุกกี้
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อคุณใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงการเข้าใช้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเรา เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
• ปกป้องคุณจากการฉ้อโกงและปรับปรุงความปลอดภัยต่อไป
• ศึกษาว่าผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์และแอพของเราและบริการอื่น ๆ ของเราอย่างไรเพื่อให้เราสามารถปรับปรุงให้เหมาะสม
• ตัดสินใจว่าผลิตภัณฑ์บริการและข้อเสนอใดของเราที่อาจเกี่ยวข้องกับคุณ
• ปรับการตลาดที่คุณเห็นบนโซเชียลมีเดียแอพและเว็บไซต์อื่น ๆ
คุณสามารถปฏิเสธการรวบรวมข้อมูลผ่านคุกกี้ได้ผ่านการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ ทั้งนี้การตั้งค่าดังกล่าวอาจลดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นลง

10. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้
• สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
o เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะ ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือการที่ท่านให้ความยินยอมเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์ท่าน
o ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท กรุณาติดต่อบริษัทหากท่านต้องการ
o หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทอาจไม่สามารถมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการบางอย่างให้ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดดังกล่าว
• สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to access)
o ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
• สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)
o ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
• สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
o ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
• สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)
o ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
• สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing)
o ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
• สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)
o ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่สมบูรณ์ โดยบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง
o ในกรณีที่ท่านขอเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่บริษัทพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นต้องยืนยันตัวตนท่านเพิ่มเติม บริษัทจะขอเอกสารและ/หรือข้อมูลเพิ่มเติม

ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นตามรายละเอียดที่ปรากฏในหัวข้อ 1 หรือตามช่องทางที่บริษัทกำหนด บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอที่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต คำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล คำร้องขอที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ และ/หรือคำร้องขอที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ท่านสามารถร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ประกาศกำหนด

11. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทมีสิทธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถตั้งค่าความยินยอมของท่านได้ที่แอปพลิเคชั่นที่ท่านใช้บริการ

12.นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

13.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า